รูปหน้าปก

เตรียมความพร้อมก่อนคุยกับสถาปนิผก ยิ่งเข้าใจ ยิ่งได้ตามความต้องการ

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันผู้คน “ส่วนใหญ่” นิยมเลือกที่จะ “สร้างบ้าน” มากกว่า “ซื้อบ้าน” เพราะมีอิสระในการออกแบบ หรือ สร้าง / ต่อ / เติม ได้มากกว่าบ้านสำเร็จ และแน่นอนว่าปัญหาหลัก ๆ ที่คนอยากสร้างบ้านต้องเจอก็คือ “ความรู้ในการสร้างบ้าน” สร้างแบบนี้ได้ไหม ? ทำแบบนั้นได้ไหม ? แบบไหนสร้างได้? แบบไหนสร้างไม่ได้? แน่นอนว่าคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ที่ไม่ได้เรียนด้านสถาปัตย์มา ย่อมไม่มีความรู้ในด้านนี้อยู่แล้ว และนี่คือเหตุผลที่เราควรให้ “สถาปนิก” มาออกแบบ ดูแลเรื่องนี้ให้

บทความนี้ Fu Lu Shou จะขอพาทุกคนไป “เตรียมความพร้อมก่อนคุยกับสถาปนิก ยิ่งเข้าใจยิ่งได้บ้านตามความต้องการ” เพราะสถาปนิก​​ คือผู้ที่มีความสำคัญในการออกแบบและวางแผนการก่อสร้าง มีความเข้าใจมาตรฐานในการก่อสร้างและ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม แล้วเราต้องเตรียมข้อมูลอะไรไปคุยกับสถาปนิกบ้างหละ ? บทความนี้เรามีคำตอบ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

  • เตรียมพร้อมข้อมูลที่ดิน

การติดต่อกับสถาปนิกเพื่อให้ข้อมูลในการออกแบบนั้น สิ่งแรกที่เจ้าของบ้าน “ควรมี” คือลักษณะและขนาดของที่ดิน หากเจ้าของบ้านจำข้อมูลที่ดินไม่ได้ เราแนะนำว่าควรนำโฉนดที่ดินไปให้กับสถาปนิก เพื่อให้สถาปนิกดูความต้องการขนาดบ้านและพื้นที่ใช้สอยออกมาให้เหมาะสมกับขนาดที่ดินที่มีอยู่

หากที่ดินที่ต้องการสร้าง มีสิ่งที่เจ้าของที่ดินอยากเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่าง ต้นไม้ใหญ่ เจ้าของบ้านควรแจ้งแก่สถาปนิกเพื่อที่จะได้จัดทำแบบบ้านที่เหมาะสมกับตำแหน่งของสิ่งนั้น

  • เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสมาชิก และความต้องการต่าง ๆจำนวนและความต้องการต่าง ๆ ของผู้พักอาศัย มีผลต่อการออกแบบทุกส่วนของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านควรให้ข้อมูลกับสถาปนิกให้มากที่สุด เพื่อให้สถาปนิกนำข้อมูลไปใช้ประกอบการออกแบบให้ใกล้เคียงกับความต้องการ โดยข้อมูลที่เกี่ยวกับความต้องการนั้นมีหลายส่วน เช่น
    • แนวความคิด หรือคอนเซปต์แบบบ้านที่อยากได้ เช่น บ้านมีสวน มีสระว่ายน้ำ หรือบ้านที่รองรับผู้สูงอายุ
    • รูปแบบบ้าน และสไตล์ที่อยากได้ เช่น บ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น หากมีแบบบ้านในฝันที่อยากให้ให้นำภาพให้สถาปนิกดูเพื่อเป็นไกด์ในการออกแบบ
    • วัสดุหลักที่จะใช้ในการสร้างบ้าน
    • ความต้องการเรื่องการใช้สอย เช่น บ้านกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ ต้องการพื้นที่จอดรถกี่คัน ลักษณะครัวไทยหรือครัวฝรั่ง
    • หากเจ้าของบ้านสนใจเรื่องเกี่ยวกับฮวงจุ้ย หากมีข้อมูลเรื่องตำแหน่งและทิศทางฮวงจุ้ยแล้วควรแจ้งกับสถาปนิกด้วย
  • งบประมาณ

งบประมาณการสร้างบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านควรแจ้งแก่สถาปนิก เพราะหากเจ้าของบ้านมีข้อมูลงบประมาณการสร้างที่ชัดเจน จะทำให้สถาปนิกรู้ขอบเขตของการออกแบบ สามารถคำนวนขนาดบ้าน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ทำให้งบไม่บานปลายภายหลัง

  • ศึกษาทำความรู้จักสไตล์บ้านในงานออกแบบ

การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะและจุดเด่นของสไตล์บ้านแต่ละแบบ จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถพูดคุยและแจ้งความต้องการแบบบ้านคร่าวๆ ให้กับสถาปนิกได้ เช่น

  • แบบบ้านสไตล์ Modern แบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้สอยได้สูงสุด โดยเน้นการนำวัสดุในอุตสาหกรรมสมัยใหม่มาใช้ เช่น เหล็กและกระจกซึ่งเป็นเป็นจุดเด่นของบ้าน แบบบ้านนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติของวัสดุและโครงสร้าง ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราในความเรียบง่าย
  • แบบบ้านสไตล์ Classic แบบที่เน้นงานฝีมือชั้นสูงฝั่งตะวันตกซึ่งมีความสง่างามและความอ่อนช้อยของลวดลาย เน้นการใช้โทนสีดำ ขาว น้ำตาล ครีม ทอง และเงิน
  • แบบบ้านสไตล์ Contemporary เป็นลักษณะแบบบ้านร่วมสมัย มีการผสมผสานกันระหว่างความโมเดิร์นกับคลาสสิกเข้าด้วยกัน
  • ศึกษาเกี่ยวกับศัพท์สร้างบ้านเบื้องต้น

นอกจากข้อมูลต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการออกแบบที่ต้องเตรียมให้สถาปนิกแล้ว การจะคุยกับสถาปนิกให้รู้เรื่อง เจ้าของบ้านเองก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัพท์เบื้องต้นเกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เรื่องที่คุยกันสามารถปะติดปะต่อได้ง่าย มีความเข้าใจทุกอย่างถูกต้องตรงกัน

  • ศึกษาวิธีการดูแบบแปลน

แปลน เป็นเหมือนสื่อกลางที่สถาปนิกใช้สื่อสารกับเจ้าของบ้าน โดยจะแสดงให้เห็นว่าบ้านหลังนั้นๆ มีพื้นที่ใช้สอยเท่าไร ประกอบด้วยห้องอะไร มีอะไรวางตำแหน่งไหน แต่ละองค์ประกอบของบ้านมีขนาดเท่าไร ซึ่งสำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่อาจไม่เข้าใจวิธีการอ่านแปลน จึงควรต้องศึกษาวิธีการอ่านและสัญลักษณ์ต่างๆ เบื้องต้น เพื่อให้เข้าใจเมื่อสถาปนิกนำเสนอแบบบ้าน และแจ้งความต้องการได้ชัดเจนขึ้น

เพราะการบ้านสร้างนั้นสำคัญจริง ๆ หากสร้างบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจากสถาปนิก สร้างเสร็จก็อาจจะต้องเสียค่าซ่อมแซม ต่อ-เติม เยอะ จากงบที่วางไว้ ก็อาจจะบานปลายได้ หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับออกแบบ และ สร้างอาคาร ที่ฟังก์ชันครอบคลุม ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการนึกถึง FU LU SHOU Architecture เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีมงานสถาปนิกคุณภาพมากประสบการ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคปัจจุบันผู้คน “ส่วนใหญ่” นิยมเลือกที่จะ “สร้างบ้าน” มากกว่า “ซื้อบ้าน”

เพราะมีอิสระในการออกแบบ หรือ สร้าง / ต่อ / เติม ได้มากกว่าบ้านสำเร็จ และแน่นอนว่าปัญหาหลัก ๆ

ที่คนอยากสร้างบ้านต้องเจอก็คือ “ความรู้ในการสร้างบ้าน” สร้างแบบนี้ได้ไหม ? ทำแบบนั้นได้ไหม ?

แบบไหนสร้างได้? แบบไหนสร้างไม่ได้? แน่นอนว่าคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ที่ไม่ได้เรียนด้านสถาปัตย์มา

ย่อมไม่มีความรู้ในด้านนี้อยู่แล้ว และนี่คือเหตุผลที่เราควรให้ “สถาปนิก” มาออกแบบ ดูแลเรื่องนี้ให้

 

บทความนี้ Fu Lu Shou จะขอพาทุกคนไป “เตรียมความพร้อมก่อนคุยกับสถาปนิก ยิ่งเข้าใจ

ยิ่งได้บ้านตามความต้องการ” เพราะสถาปนิก​​ คือผู้ที่มีความสำคัญในการออกแบบและวางแผนการก่อสร้าง มีความเข้าใจมาตรฐานในการก่อสร้างและ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม

แล้วเราต้องเตรียมข้อมูลอะไรไปคุยกับสถาปนิกบ้างหละ ? บทความนี้เรามีคำตอบ จะมีอะไรบ้าง

ไปดูกันเลย

 

  • เตรียมพร้อมข้อมูลที่ดิน

การติดต่อกับสถาปนิกเพื่อให้ข้อมูลในการออกแบบนั้น สิ่งแรกที่เจ้าของบ้าน “ควรมี” คือลักษณะและขนาดของที่ดิน หากเจ้าของบ้านจำข้อมูลที่ดินไม่ได้ เราแนะนำว่าควรนำโฉนดที่ดินไปให้กับสถาปนิก

เพื่อให้สถาปนิกดูความต้องการขนาดบ้านและพื้นที่ใช้สอยออกมาให้เหมาะสมกับขนาดที่ดินที่มีอยู่

 

หากที่ดินที่ต้องการสร้าง มีสิ่งที่เจ้าของที่ดินอยากเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่าง ต้นไม้ใหญ่

เจ้าของบ้านควรแจ้งแก่สถาปนิกเพื่อที่จะได้จัดทำแบบบ้านที่เหมาะสมกับตำแหน่งของสิ่งนั้น

 

  • เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสมาชิก และความต้องการต่าง ๆ

จำนวนและความต้องการต่าง ๆ ของผู้พักอาศัย มีผลต่อการออกแบบทุกส่วนของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านควรให้ข้อมูลกับสถาปนิกให้มากที่สุด เพื่อให้สถาปนิกนำข้อมูลไปใช้ประกอบการออกแบบให้ใกล้เคียงกับความต้องการ โดยข้อมูลที่เกี่ยวกับความต้องการนั้นมีหลายส่วน เช่น

  • แนวความคิด หรือคอนเซปต์แบบบ้านที่อยากได้ เช่น บ้านมีสวน มีสระว่ายน้ำ หรือบ้านที่รองรับผู้สูงอายุ
  • รูปแบบบ้าน และสไตล์ที่อยากได้ เช่น บ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น หากมีแบบบ้านในฝันที่อยากให้ให้นำภาพให้สถาปนิกดูเพื่อเป็นไกด์ในการออกแบบ
  • วัสดุหลักที่จะใช้ในการสร้างบ้าน
  • ความต้องการเรื่องการใช้สอย เช่น บ้านกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ ต้องการพื้นที่จอดรถกี่คัน ลักษณะครัวไทยหรือครัวฝรั่ง
  • หากเจ้าของบ้านสนใจเรื่องเกี่ยวกับฮวงจุ้ย หากมีข้อมูลเรื่องตำแหน่งและทิศทางฮวงจุ้ยแล้วควรแจ้งกับสถาปนิกด้วย

 

  • งบประมาณ

งบประมาณการสร้างบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านควรแจ้งแก่สถาปนิก เพราะหากเจ้าของบ้านมีข้อมูลงบประมาณการสร้างที่ชัดเจน จะทำให้สถาปนิกรู้ขอบเขตของการออกแบบ สามารถคำนวนขนาดบ้าน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ทำให้งบไม่บานปลายภายหลัง

 

  • ศึกษาทำความรู้จักสไตล์บ้านในงานออกแบบ

การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะและจุดเด่นของสไตล์บ้านแต่ละแบบ จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถพูดคุยและแจ้งความต้องการแบบบ้านคร่าวๆ ให้กับสถาปนิกได้ เช่น

 

  • แบบบ้านสไตล์ Modern แบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้สอยได้สูงสุด โดยเน้นการนำวัสดุในอุตสาหกรรมสมัยใหม่มาใช้ เช่น เหล็กและกระจกซึ่งเป็นเป็นจุดเด่นของบ้าน แบบบ้านนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติของวัสดุและโครงสร้าง ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราในความเรียบง่าย
  • แบบบ้านสไตล์ Classic แบบที่เน้นงานฝีมือชั้นสูงฝั่งตะวันตกซึ่งมีความสง่างามและความอ่อนช้อยของลวดลาย เน้นการใช้โทนสีดำ ขาว น้ำตาล ครีม ทอง และเงิน
  • แบบบ้านสไตล์ Contemporary เป็นลักษณะแบบบ้านร่วมสมัย มีการผสมผสานกันระหว่างความโมเดิร์นกับคลาสสิกเข้าด้วยกัน

 

  • ศึกษาเกี่ยวกับศัพท์สร้างบ้านเบื้องต้น

นอกจากข้อมูลต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการออกแบบที่ต้องเตรียมให้สถาปนิกแล้ว การจะคุยกับสถาปนิกให้รู้เรื่อง เจ้าของบ้านเองก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัพท์เบื้องต้นเกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เรื่องที่คุยกันสามารถปะติดปะต่อได้ง่าย มีความเข้าใจทุกอย่างถูกต้องตรงกัน

 

  • ศึกษาวิธีการดูแบบแปลน

แปลน เป็นเหมือนสื่อกลางที่สถาปนิกใช้สื่อสารกับเจ้าของบ้าน โดยจะแสดงให้เห็นว่าบ้านหลังนั้นๆ มีพื้นที่ใช้สอยเท่าไร ประกอบด้วยห้องอะไร มีอะไรวางตำแหน่งไหน แต่ละองค์ประกอบของบ้านมีขนาดเท่าไร ซึ่งสำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่อาจไม่เข้าใจวิธีการอ่านแปลน จึงควรต้องศึกษาวิธีการอ่านและสัญลักษณ์ต่างๆ เบื้องต้น เพื่อให้เข้าใจเมื่อสถาปนิกนำเสนอแบบบ้าน และแจ้งความต้องการได้ชัดเจนขึ้น

 

เพราะการบ้านสร้างนั้นสำคัญจริง ๆ หากสร้างบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจากสถาปนิก สร้างเสร็จก็อาจจะต้องเสียค่าซ่อมแซม ต่อ-เติม เยอะ จากงบที่วางไว้ ก็อาจจะบานปลายได้ หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับออกแบบ และ สร้างอาคาร ที่ฟังก์ชันครอบคลุม ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการนึกถึง FU LU SHOU Architecture เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีมงานสถาปนิกคุณภาพมากประสบการณ์ มั่นใจในผลงงานและผลลัพธ์ที่ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้า พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยเพื่อเสริมพลังงานที่ดีให้กับการดำเนินธุรกิจ

ณ์ มั่นใจในผลงงานและผลลัพธ์ที่ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้า พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยเพื่อเสริมพลังงานที่ดีให้กับการดำเนินธุรกิจ

เครดิต: hba

brandrankup