กระบวนการทางอุตสาหกรรมหรือกระบวนการต่าง ๆ ในโรงงาน นอกจากต้องมีระบบจัดการน้ำเสียที่ดีแล้วยังต้องมีระบบการจัดการขยะที่ดีด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ดังนั้นในการสร้างโรงงานจึงมีกฏหมายข้อบังคับเกี่ยวกับระบบจัดการขยะในโรงงานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ประเภทของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
- ของเสียที่เป็นของแข็ง (solid waste)
- ขยะเปียก (garbage) ได้แก่ เศษพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ประกอบไปด้วยสารอินทรีย์ทำการบูดเน่า
- ขยะแห้ง (rubbish) ได้แก่ กระดาษ พลาสติก ไม้ ผ้า แก้ว โลหะ ส่วนมากเป็นเศษเหลือจากบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
- ของเสียที่เป็นของเหลว (liquid waste)
- น้ำทิ้งจากกระบวนการหล่อเย็น (cooling water)
- น้ำทิ้งจากกระบวนการผลิต (process wastewater)
- น้ำทิ้งจากกระบวนการล้าง (wash water)
- น้ำทิ้งจากกิจกรรมอื่น ๆ
- ของเสียที่เป็นแก๊ส
- เขม่า ขี้เถ้าลอย ฝุ่นละออง และสารระเหยอื่น ๆ
หลักในการพิจารณาวิธีการกำจัดขยะ
หลักการจัดการขยะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ คือ การขนขยะออกไปจากโรงงานอย่างรวดเร็วและเรียบร้อย รวมทั้งประหยัดและเกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยพิจารณาดังนี้
- ลักษณะและปริมาณขยะ
- สถานที่
- ค่าใช้จ่ายในการลงทุน
- ค่าใช้จ่ายในกระบวนการกำจัด
- การนำผลผลิตจากการกำจัดขยะมูลฝอยไปใช้ประโยชน์
- ผลกระทบการกำจัดขยะต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัย
- การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
ระบบการเก็บรวบรวมขยะมูลฝอย 2 ระบบ
- ระบบถังเดียว (one-can system) รวบรวมขยะมูลฝอยไว้ในถังเดียวกัน สะดวกแก่การทิ้งและการเก็บ แต่เมักมีปัญหาในการเลือกวิธีการกำจัดขยะ
- ระบบสองถัง (two-can system) แยกเก็บขยะ 2 ประเภท คือ ขยะเปียกและขยะแห้ง วัสดุที่ใช้ทำเป็นถังขยะต้องไม่รั่วซึม มีฝาปิด และมีถุงพลาสติกรองรับไว้ด้านใน เลือกวิธีการกำจัดขยะได้ง่าย
การกำจัดขยะ
- การเผา
การเผาตามหลักสุขาภิบาล (incineration) ต้องเผาในเตาเผาขยะเฉพาะโดยใช้ความร้อนในการเผาประมาณ 680 – 1,000 องศาเซลเซียส ทำให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ตามมาตรฐานในการกำจัดขยะ รวมทั้งการเผาด้วยหลัการนี้จะไม่ทำให้เกิดกลิ่นควันรบกวน
ข้อดี: ใช้พื้นที่น้อย ทำลายขยะได้เกือบทุกชนิด
ข้อเสีย: ค่าลงทุนและค่าซ่อมแซมสูงมาก โดยเฉพาะเตาขนาดใหญ่
- หมักทำปุ๋ย
การนำของเสียมาหมักทำให้เกิดเป็นแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของดิน การทำหมักเพื่อทำปุ๋ยมี 2 วิธี
- การหมักแบบใช้ออกซิเจน การหมักโดยวิธีนี้เร็วประมาณ 5 วัน นิยมทำในอุตสาหกรรมปุ๋ยหมักเพราะไม่ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง
- การหมักแบบไม่ใช้ออกซิเจน การหมักใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจนถึง 1 ปี ไม่นิยมหมักด้วยวิธีนี้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงในการหมักและมีกลิ่นแรง
ข้อดี: เสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดน้อย
ข้อเสีย: มีกลิ่นและแมลงรบกวน
- การฝังกลบ
การฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล (sanitary landfill) เป็นการกำจัดของเสียโดยการบดอัดของเสียด้วยเครื่องจักรกลเพื่อให้ของเสียยุบตัวหรือมีความหนาแน่นมากหลาย ๆ ชั้น ความหนาของชั้นบนสุดท้าย (final lift) ต้องมีความหนาอย่างน้อย 60 เซนติเมตร วิธีฝังกลบแบบนี้เป็นวิธีที่เหมาะกับขยะในเขตชุมชนเมืองเพราะมีขยะปริมาณมากต่อวัน
การวางระบบการจัดการขยะและของเสียจากกระบวนการอุตสาหกรรมต้องเลือกอย่างเหมาะสม เพราะของเสียแต่ละชนิดมีวิธีการกำจัดที่ถูกต้องและส่งผลเสียน้อยที่สุดแตกต่างกัน หากต้องการที่ปรึกษาสำหรับการสร้างโรงงานให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีผลงานในด้านการออกแบบโรงงานและออกแบบระบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรม FU LU SHOU Architecture บริษัทรับออกแบบบ้านที่เชี่ยวชาญการออกแบบบ้านและอาคารต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องสำหรับการออกแบบอาคารโดยทีมงานคุณภาพมากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องฮวงจุ้ยเพื่อเสริมพลังงานที่ดีให้กับการดำเนินธุรกิจ
เครดิต: facagri.cmru